จุดเด่นของ 'แผงโซลาร์เซลล์' แต่ละชนิด

3 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

แผงโซลาร์เซลล์ (Photovoltaics Module ) ทำมาจากผลึกซิลิคอนที่มีคุณสมบัติหลักในการรับแสงอาทิตย์ และเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ถือเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และชั้นบรรยากาศของโลก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แผงโซลาร์เซลล์เริ่มเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

แผงโซลาร์เซลล์ มีให้เลือกหลายแบบและหลายขนาด ตามวัตถุประสงค์ของการใช้ สำหรับในประเทศไทย มีแผงโซลาร์เซลล์ 3 ประเภท ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้

แผงโซลาร์เซลล์ ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells)
จุดเด่นของแผงโซลาร์เซลล์ชนิดนี้ คือทำมาจากธาตุซิลิคอนตั้งต้นที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก พ่วงด้วยคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพที่มีความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 17 – 20% โดยเฉลี่ย ซึ่งถือว่าสูงมาก แถมใช้พื้นที่การติดตั้งน้อย อายุการใช้โดยเฉลี่ยยาวนานประมาณ 25 ปี และด้วยคุณสมบัติดีงามขนาดนี้ อาจทำให้หลายคนติดอยู่บ้าง เนื่องจากของคุณภาพดี จึงอาจจะทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูงตามไปด้วย
แผงโซลาร์เซลล์ ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells)
แผงโซลาร์เซลล์ชนิดนี้ มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้ดี รองลงมาจากแผงโซลาร์เซลล์ ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้สูงถึง 15-19% โดยเฉลี่ย มีคุณสมบัติด้านความทนทานในสภาพอากาศร้อนจัดได้ดี จึงเป็นที่นิยมมากในพื้นที่เขตร้อน เช่น ประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคอาเซียน เรื่องของราคาก็ไม่แรงมาก คุ้มค่าเหมาะสมกับการใช้งาน อายุการใช้งานประมาณ 20 ปี
แผงโซลาร์เซลล์ ชนิดฟิล์มบาง (Thin Film Solar Cells)
ทำมาจากสารอะมอฟัส (Amorphous silicon) และสารชนิดอื่นๆ โดยนำมาฉาบเป็นแผ่นฟิล์ม มีคุณสมบัติผลิตไฟฟ้าได้น้อยที่สุด จึงมีราคาถูก แต่ไม่เหมาะนำมาใช้ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด อายุการใช้งานสั้นกว่าประเภทอื่นๆ แม้ความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจะน้อยกว่าแผงโซลาร์ 2 ชนิดข้างต้น แต่แผงโซลาร์เซลล์ อะมอร์ฟัส ก็เหมาะมาก ๆ สำหรับการใช้งานในปริมาณไม่สูงนัก โดยนิยมนำมาใช้งานกับพวก Gadget ขนาดเล็ก เช่น เครื่องคิดเลข นาฬิกา แถมเรื่องราคาก็แสนประหยัด อายุการใช้งานก็ไม่น้อย เพราะใช้ได้นานถึง 5 ปี