การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ถือเป็นการผลิตไฟฟ้าที่หลาย ๆ ประเทศนิยมทำกัน ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นซึ่งระบบโซล่าเซลล์สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อให้เรามีไฟฟ้าไว้ใช้ตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าไฟฟ้าลงได้บ้างและที่ดีไปกว่านั้นคือเราสามารถที่จะ ติดตั้งโซล่าเซลล์การไฟฟ้า แล้วนำไปขายคืนภาครัฐได้ด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งไฟฟ้าและเงินใช้ในเวลาเดียวกันด้วย
ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
การนำไฟฟ้าที่แปรสภาพจากแสงอาทิตย์โดยผ่านแผงโซล่าเซลล์มาขายให้กับภาครัฐได้นั้น จริง ๆ แล้วต้องเป็นการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาเท่านั้น เนื่องจากใช้แบตเตอรี่เป็นตัวนำไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาใช้กับอุปกรณ์/เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งหากไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอก็จะไม่มีการนำเอาไฟฟ้าจากภาครัฐมาใช้เหมือนกับการติดตั้งโซล่าเซลล์ด้วยระบบออนกริดนั่นเอง
การนำไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาขายคืนภาครัฐ
ในส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ผ่านแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็ได้สนับสนุนให้มีผู้ที่ ติดตั้งโซล่าเซลล์การไฟฟ้า ประเภทบ้านอยู่อาศัย (ติดบนหลังคา) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้า รวมถึงหากเหลือใช้ก็ให้ขายคืนกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้น ๆ ได้เลย โดยอัตราการรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำหนดไว้ในปี 2562 นี้ ราคาจะอยู่ที่ 1 บาท 68 สตางค์ต่อหน่วย และจะสนับสนุนการรับซื้อไฟฟ้านี้ไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้ ผู้ที่จะขายไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ให้ภาครัฐได้นั้นต้องติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ต่อคน
การยื่นคำขอขายไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์คืนภาครัฐ
1. ผู้ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์การไฟฟ้า แล้วมีความประสงค์ที่จะขายคืนให้ภาครัฐต้องเป็นบ้านอยู่อาศัยเท่านั้น (เคหสถานประเภทที่ 1)
2. ชื่อของผู้ที่จะขายต้องเป็นชื่อที่ปรากฎในรายการค่าไฟฟ้าเท่านั้น หากไม่ใช่จะไม่สามารถส่งคำร้องขอได้
3. บ้านอยู่อาศัยหลังที่ยื่นคำขอ จะยังต้องมีสถานะของผู้ใช้ไฟฟ้ากับภาครัฐ อย่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอยู่เท่านั้น
4. ในส่วนของบ้านอยู่อาศัยที่ได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้บนหลังคา และมีการขอขนานกับภาครัฐเพื่อให้สามารถใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เรียบร้อยแล้วนั้น ให้ยื่นคำขอเข้าร่วมการขายคืนไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ให้กับภาครัฐได้เลย